การปลูกมะยงชิดให้ต้นติดไว ไม่ต้องมากมาย ต้นเดียวผลก็ดกเต็ม

มีใครชอบมะยงชิดไหม ลักษณะจะคล้ายมะปรางแต่ก็คนละอย่างกันนะ บทความนี้มาเอาใจคนที่อยากจะทำสวนมะยงชิด ปลูกอย่างไรให้ติดลูกดก ต้นสมบูรณ์ ต้นโตเร็ว ผลผลิตออกมาดีตลอด ลองอ่านบทความนี้ให้จบ อ่านช้าๆ และทำความเข้าใจไปทีละอย่าง แล้วจากนั้นก็ไปลงมือปลูกกันได้เลย



การเตรียมดินปลูกมะยงชิด

หากต้องปลูกแบบแปลงใหม่ให้พรวนดินจนร่วนและกำจัดวัชพืชออกให้หมด โดยทำ 1 – 2 ครั้งเลย แล้วค่อยมาทำหลุมปลูกต่อ โดยขนาดหลุมนั้นจะอยู่ที่ 60 – 80 เซนติเมตร ในส่วนของความลึกนั้นจะอยู่ที่ 50 – 100 เซนติเมตร ระยะหลุมก็อยู่ที่ 4 – 8 x  4 – 8 เมตร ตามสะดวกของแต่ละพื้นที่ด้วย หลังจากทำหลุมปลูกเสร็จแล้วให้ตากดินไว้ก่อนสัก 3 วัน แล้วค่อยหาปุ๋ยหมักมาโรยผสมดินในหลุมปลูก 1- 2 ถัง/หลุม กำลังพอดี



การเตรียมพันธุ์กล้ามะยงชิด

ส่วนมากก็จะได้ต้นพันธุ์จากการทาบกิ่ง การเพาะเมล็ด สำหรับต้นที่พร้อมสำหรับการปลูกนั้นจะอายุประมาณ 2 – 3 เดือน ซึ่งหากต้องปลูกเยอะแนะนำการเพาะเมล็ดจะได้เร็วกว่า ช่วยประหยัดเวลาในการเพาะอีกด้วย

เมื่อเราเตรียมต้นพันธุ์พร้อมแล้วก็เอามาปลูกลงหลุมที่ตากแล้ว และควรปลูกในหน้าฝนจะช่วยให้ต้นตั้งตัวได้เร็ว พอเอาลงหลุมแล้วก็กลบดินให้เสร็จแน่นๆ พร้อมหาไม้มาเสียบเป็นหลักไว้ข้างต้นและมัดด้วยเชือก ค้ำไว้ไม่ให้ล้มเวลาลมฝนมา



การดูแล

ให้น้ำ 4 – 5 วัน 1 ครั้งในช่วงปีแรกที่ปลูกใหม่ และให้ใส่ปุ๋ยทุกๆ 6 เดือนนับจากวันที่ปลูก โดยจะใช้เป็นปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ก็ได้ตามสะดวก รวมถึงการให้แบบฉีดใบนั้นจะให้ตอนแตกใบอ่อน และพ่นทุก 7 วัน จนกว่าใบจะเพสลาก็หยุดฉีดได้เลย เวลาฉีดก็ผสมสารไล่แมลงกับอาหารเสริมเข้าไปด้วยนะ จะได้บำรุงต้นบำรุงใบได้ดี

อายุต้นมะยงชิดที่เหมาะแก่การให้ปุ๋ ยคือ 1 – 3 ปี ให้ปีละ 1 ครั้งช่วงต้นหน้าฝน และสำหรับต้นที่โตแล้วให้ผลผลิตแล้วก็จะต้องทำการตัดแต่งกิ่งออกเหลือไว้แต่ผลที่สมบูรณ์ กิ่งไหนไม่สมบูรณ์ กิ่งไหนเป็นโรคให้ตัดทิ้งได้เลย อย่าลืมกำจัดวัชพืชด้วย รวมถึงให้ปุ๋ ยสูตร 16-16-16 พร้อมปุ๋ยหมักแห้งตอนใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 โดยจะต้องใส่ก่อนจะหมดฝน และปุ๋ยสูตร 8 – 24 – 24 ก็ใส่พร้อมปุ๋ยหมักแห้งบำรุงต้นได้ในช่วงการออกดอกผลในครั้งต่อไป



การเก็บเกี่ยว

เมื่อต้นมะยงชิดอายุได้ 3 – 4 ปีแล้วเราจะเห็นดอกในช่วง พฤศจิกายน – ธันวาคมและเห็นผลเริ่มสุกมาเรื่อยๆ ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม จะสุกเต็มที่เก็บขายได้เลย โดยเราจะเห็นว่าเปลือกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้ว นั่นแปลว่าพร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยว โดยเวลาเก็บก็ปีนขึ้นไปเก็บเลยหรือใช้กรรไกรตัดกิ่งมาช่วยก็ได้

มะปรางกับมะยงชิดต่างกันอย่างไร

บางคนก็แยกไม่ออกจริงๆ เพราะว่ามันคล้ายกันมาก แต่จริงๆ แล้วมันมีจุดที่แตกต่างกันอยู่ คือมะยงชิดนั้นเมื่อปอกเปลือกแล้วจะหวาน ส่วนเปลือกจะมีรสเปรี้ยว แต่มะปรางนั้นจะมีแต่หวานอย่างเดียวเลย อาจจะเปรี้ยวบ้างแต่น้อยมาก แต่ถ้ามะปรางสุกมากจะเปรี้ยวมากเหมือนกันนะ สีของมะปรางจะเหลืองนวล ส่วนมะยงชิดจะเหลืองส้ม



ประโยชน์ของมะยงชิด

  1. เป็นผลไม้ทานแล้วให้พลักงานและสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย แถมยังเอามาแปรรูปได้ด้วย
  2. วิตามินซี สูงมาก ลดการเป็นอาการเลือดออกตามไรฟัน
  3. มีแคลเซียมสูง ฟอสฟอรัสสูงลดการเป็น กระดู กพรุน
  4. มีสารต้านอนุมูลอิสระ
  5. เอาเนื้อด้านในมาบดแล้วใช้ทาแผล ช่วยลดการติดเชื้อและการอักเสบของแผลได้
  6. กิ่งมะยงชิดเอามาทำฟืนและใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ได้

ก็คงต้องยอมรับเลยว่าหากมองผ่านๆ ยังไงมันก็มะปรางชัดๆ แต่ว่ามะยงชิดก็คือมะยงชิดนะ แม้ว่าสรรพคุณหลายอย่างจะคล้ายมะปรางก็ตาม สำหรับใครที่สนใจอยากจะปลูกก็ลองศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมและลงมือปลูกได้เลย ซึ่งการปลูกเพียงครั้งเดียวก็ทำให้เราเก็บเกี่ยวได้หลายปีเลย

เรียบเรียงโดย kasetchaoban

ภาพประกอบเนื้อหาจากอิเตอร์เน็ต
อ้างอิงข้อมูลจาก : https://kasetchaoban.com/



 7,644 total views,  10 views today

About the author